วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คนดังท้า "ไอซ์บัคเก็ตชาเลนจ์" (ตอนที่ 2)

ในตอนนี้จะเล่าถึงที่มาของ ไอซ์บัคเก็ดชาเลนจ์ มาให้อ่านกันนะครับ

กิจกรรมท้าทายด้วยการราดศีรษะและตัว ด้วยถังน้ำเย็นหรือน้ำแข็ง หรือ Ice Bucket Challenge บางครั้งก็เรียกว่า ALS Ice Bucket Challenge เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่แพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วเมื่อ พีท เฟรตีส อดีตนักเบสบอลระดับมหาวิทยาลัยวัย 29 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นผู้จุดประกายการท้าทาย Ice Bucket Challenge เพื่อรณรงค์หาทุนและให้ประชาชนได้ตระหนักถึงโรคนี้ ซึ่งไม่มีทางรักษาหายได้

สมาคมเอแอลเอส เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของสหรัฐอเมริกา ที่หาเงินทุนเพื่อทำการวิจัยและบริการคน ไข้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้าม เนื้อ โรคเอแอลเอสมีที่มาของความผิดปกติที่บริเวณแกนสมอง และไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อแขนขา และลำตัวอ่อนแรง กลืนลำบาก และพูดไม่ชัด

กติกาของ Ice Bucket Challenge คือ ต้องท้าทายบุคคล 3 คนว่า จะยอมเอาน้ำเย็นราดหัวตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง (เป็นส่วนใหญ่) หรือยอมบริจาคเงินให้กับ ALS Association หรือ ถ้ากล้าพอก็ทำทั้งสองอย่าง จากนั้น ผู้ที่รับคำท้าต้องกล่าวท้าทายบุคคลอื่นอีก 3 คน ก่อนที่จะเอาถังน้ำเย็นราดศีรษะตัวเองและถ่ายภาพวีดิโอนำออกเผยแพร่เป็นหลักฐานด้วย เรื่องจำนวนเงินบริจาคนี้มีกระแสแตกต่างกันไป บางกระแสบอกว่า หากผู้ถูกท้าราดศีรษะตัวเองก็จะบริจาคเงิน 10 ดอลลาร์ แต่หากไม่ยอมราดน้ำรดตัวเองต้องบริจาคเงิน 100 ดอลลาร์ แต่บางกระแสบอกว่า ไม่มีการระบุจำนวนเงินบริจาค ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละบุคคล

สำหรับคนแรกของไทยที่ประเดิมการนเำเย็นใส่ตัวคือ มาร์ค แห่งเว็บไซต์ blognone มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างค่านิยมการบริจาค หรือการให้เงินเพื่อสาธารณประโยชน์แก่มูลนิธิ หรือภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทย โดยมิได้จำกัดไว้ที่ใดที่หนึ่ง โดยเขาได้ขอบริจาคให้โครงการสร้างอาชีพให้แม่หญิงใต้ที่สูญเสียสามีจากความ ไม่สงบ ผ่านเว็บไซต์เทใจ (taejai.com) พร้อมกับส่งคำท้าไปยัง 3 คนแรกที่จะสานต่อ คือ คุณภาวุธ (@pawoot) TARAD.com, คุณจักรพงษ์ (@jakrapong) จาก Thumbsup และอาจารย์ศุภเดช (@ripmilla) โดยผู้ที่ถูกท้าจะมีเวลา 24 ชั่วโมงในการตอบรับคำท้า เอาน้ำแข็งราดตัว พร้อมกับการบริจาค

 
ที่มา - ไทยรัฐ/mcot.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น